- ผมเข้าศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ม.อ.หาดใหญ่ เมื่อปีการศึกษา 2549 (หลังจากจบปริญญาตรี) ต้องสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์เข้าเรียนนะครับ (ผ่านมาแบบงงๆ สงสัยไม่มีใครเรียน ฮึฮึ) มีเพื่อนร่วมรุ่นจำนวน 8 คน (มาจากเอก appmath ม.อ.ตานี 3 คน เยอะไปใหน...) ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากไปทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ กทม. และต้องการอยู่ใกล้บ้าน (ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก) รหัสนักศึกษาที่ได้รับ คือ 4910220107 (จำได้ดีเพราะใช้ตั้ง 4 ปี) ตอนเข้าไปเรียนใหม่ๆ ความรู้ด้านนี้ยังน้อยมาก พื้นฐานไม่แน่นเลย ไม่รู้จะเลือกเน้นไปสาขาย่อยอะไร อาจารย์ที่ปรึกษาเป็นใคร เรียนวิชาไรบ้างเนี่ย (กังวลมาก เพื่อนเขาชัดเจน) แล้วเราละ? 555++
- ปีที่ 1 เรียน course work เพื่อเพิ่มเติมความรู้ในส่วนที่ขาด (ไม่เต็มสักที อิอิ) เน้นบรรยาย และ ปฏิบัติจริง ผ่านมาได้ด้วยตัวเองบ้าง ด้วยเพื่อนบ้าง มีบางรายวิชาที่ต้อง drop ก็มี (เรียนไม่ไหว ยาก...แล้วเรียนทำไม?) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิชาพื้นฐานที่นักศึกษาทุกคนต้องเรียนกัน ระหว่างเรียนได้เป็นผู้ช่วยสอน (TA) นักศึกษา ป.ตรี พอได้มีค่าขนมกินบ้าง
- ปีที่ 2 แต่ละคนเลือกเรียน course work เฉพาะที่ตัวเองสนใจนำไปใช้ในการทำวิทยานิพนธ์ ส่วนใหญ่เรียนจบแล้วมีอาจารย์ที่ปรึกษามาจีบไปทำวิทยานิพนธ์ด้วย แล้วผมละ เก่งอะไรบ้างเนี่ย ไม่มีใครมาจีบเลย สุดท้ายต้องไปขอให้ ผศ.ดร.นิษฐิดา เอลซ์ เป็นที่ปรึกษาให้ ด้วยความสงสาร...ไม่ใช่...ความตั้งใจของผม (ขอบพระคุณอย่างมากครับ ผมไม่มีวันลืม อ.นิด ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ทั้งปฐพี)
- ปีที่ 3 เรียน course work หมดแล้ว ทุกคนพุ่งเป้าไปที่การทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียว ขยันก็จบเร็ว ภาควิชาสนับสนุนทรัพยากรพร้อม ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งห้องแล็บที่เป็นส่วนตัว แต่ด้วยความเป็นส่วนตัวนี่ละครับ ที่ทำให้แต่ละครั้งที่มีการายงานความก้าวหน้า ไปไม่ถึงใหนสักที เล่นเกมส์ อาจารย์จับได้ก็มี โดยด่ายับ ป.โท แล้วนะ โตกันแล้ว อิอิ มีเพื่อนบางคนเริ่มจบ 3 ปีกันแล้ว ส่วนผมต้องบอก ตามตรงว่ายังไปไม่ถึงใหน (เพื่อนจบก่อน ไม่ได้กดดันเราเลย) ส่วนหนึ่งคงมาจากการที่ผมได้ไปสมัครและเป็นครูประจำที่ ร.ร.หาดใหญ่วิทยาคาร อ.หาดใหญ่ ทำให้ต้องทุ่มเทกับการสอนวิชาคณิตศาสตร์ และช่วยพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน เลยไม่มีเวลาในการทำวิทยานิพนธ์
- ปีที่ 4 วิทยาพนธ์ก้าวหน้าทีละนิด แต่ความรักก้าวไปไม่หยุดยั้ง ทำพิธีนิกะห์ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 และเลี้ยงฉลองแต่งงานวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาผมมาร่วมเป็นเกียรติในงานแต่งด้วย ขอบคุณอีกครั้งครับ (ทั้งที่ยังไม่จบ ป.โท มีรายได้จากการเป็นครู) แต่งงานยังน้อยไป เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกอย่าง คือ อ.เมตตา เป็นหัวหน้าภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ม.อ.ตานี ในขณะนั้น (โดยการแนะนำของ เพื่อนฮุ้ย) ชวนให้ไปทำงานที่เคยเรียนมา ไปสิครับ รอไร เงินเดือนดี เข้าทำงานไม่ต้องสอบ มีเงินเลี้ยงเมียแล้ว รอดแล้ว ในขณะเดียวกัน วิทยานิพนธ์ก็ต้องตั้งใจทำให้จบ เพราะเป็นปีสุดท้ายแล้ว ไม่จบคือรีไทร์ เหมือนพระเจ้ารับพร (ดุอา) 3 เดือนสุดท้าย สามารถสอบป้องกันวิทยาพนธ์ และสำเร็จการศึกษา ได้ทันเวลาพอดี
- และที่ประทับใจ ไม่มีวันลืม คือ หลังจากสอบจบแล้ว อาจารย์ที่ปรึกษา เชิญให้ไปเล่าประสบการณ์การเรียน ตลอดจนแนวทางการเรียน ปัญหา อุปสรรค ให้กับรุ่นน้อง ซึ่งได้รับความสนใจ และคำชมจากอาจารย์พอสมควร (ดีใจมาก ไม่คิดว่าประสบการณ์ของเรา 4 ปีเต็ม จะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง)